CHO THAVEE PLC.

Language Switcher

รายงานพิเศษจากรายการ "ส่องโลกนวัตกรรม" ทาง Thai PBS ที่นำเสนอ ผลงานนวัตกรรมทางด้านอุตสาหกรรม ในการพัฒนาหุ่นยนต์เชื่อม 7 แกน (VR-7)

เป็นการพัฒนาเพื่อนำมาใช้กับการเชื่อมประก­อบ ในกระบวนการผลิต ของบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) ซึ่ง ได้รับการพิจารณาเป็นองค์กรที่มีผลงานดีเด­่นและเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโ­ลยีในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาวิทยาศาสตร­์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้เกิดสังคมฐานความรู้ และการพัฒนาเพื่อสร้างคุณค่าและสร้างเครือ­ข่ายในการพัฒนางาน เพื่อก่อเกิดการวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรม­ให้มีการใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมในชุมชนให้มากยิ่งขึ้น ผลงานนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศของนวัตกรรมแห­่งชาติ ประเภทวิสาหกิจขนาดใหญ่ จาก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ National Science Technology and Innovation Policy Office

สัมภาษณ์พิเศษ คุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ในเรื่องของอนาคตประเทศไทยเกี่ยวกับเทคโนโลยีขนส่งทางราง โดยรายการ ส่องโลกนวัตกรรม 

สัมภาษณ์พิเศษ คุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย รายการถกข่าวเสาร์ อาทิตย์ เบื้องหลังความสำเร็จระดับโลกของบริษัทคนไทย โดยคุณสุรเดช ได้ให้สัมภาษณ์ใจความสำคัญว่า ธุรกิจใดๆก็ตาม ขอให้เริ่มจากการทำเพื่อประเทศชาติเป็นหลัก 

สัมภาษณ์พิเศษ คุณ นพรัตน์ แสงสว่าง ในรายการเพื่อนคู่คิด ตอนตู้คอนเทนเนอร์น้ำหนักเบา นวัตกรรมฝีมือคนไทย เบื้องหลังการคิดค้น และพัฒนาวัสดุที่ใช้เพื่อการขนส่งที่มีน้ำหนักเบากว่าตู้โครงเหล็กทั่วไปถึง 50% ส่งผลให้สามารถบรรทุกได้เพิ่มขึ้นอีก

ผู้นำเทคโนโลยีรถยนต์ด้านความปลอดภัย อย่าง Volvo ได้คิดค้นและพัฒนาระบบป้องกันการชนขณะขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีใช้ในรถยนต์ โดยระบบป้องกันการชนขณะขับความเร็วต่ำ(City Safety) นี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการขับรถ มีการทำงานคือเมื่อรถยนต์วิ่งอยู่ในความเร็วเฉลี่ย 50 กม. ต่อชั่วโมง ระบบ Sensor ที่ติดตั้งอยู่ที่บริเวณส่วนหน้าของรถยนต์จะทำหน้าที่สแกนในระยะห่าง 10 เมตร และตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าว่าหยุดหรือเคลื่อนที่ ถ้าระบบจับสัญญาณได้ว่ามีระยะห่างที่อาจทำให้เกิดอันตราย ระบบจะชาร์จไฟเข้าไปยังระบบเบรคเพื่อรอให้ผู้ขับเหยียบเบรค แต่ถ้าผู้ขับไม่ทำการเหยียบเบรค ระบบก็จะทำการเบรคอัตโนมัติ

 

และในกล่องควบคุมระบบ มีตัวเรดาร์มีหน้าที่ตรวจจับภาพมุมกว้าง 60 องศาทางด้านหน้ารถว่า มีวัตถุหรือสิ่งของอยู่ในรัศมีหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีกล้องที่จะช่วยยืนยันว่าเป็นโครงสร้างของตัวมนุษย์ ซึ่งกล้องตัวนี้มีความละเอียดสูงมากทำให้สามารถตรวจจับรูปแบบการเคลื่อนไหวของคนเดินถนนนั้นได้ด้วย และจะทำงานเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 35 กม./ชม. และทำการเบรคอัตโนมัติเช่นกัน

 

เมื่อต้องขับรถออกนอกเมืองและต้องใช้ความเร็ว จะมีระบบตรวจจับผู้ขี่รถจักรยานพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถแบบเต็มแรงเบรค ที่ชื่อ ว่า Cyclist Detection with Full Auto Brake เป็นตัวช่วยให้มีความปลอดภัยเช่นกัน ระบบจะเตือนให้ผู้ขับทราบว่าว่ามีวัตถุหรือคนอยู่ข้างหน้าในระยะ 150 เมตร โดยมีสัญญาณไฟกระพริบ และสัญญาณเสียง มีระบบช่วยลดความเร็ว แต่ถ้าผู้ขับไม่ทำการเบรค ระบบก็จะทำการเบรกอัตโนมัติและเปิดสัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน เพื่อเป็นสัญญาณให้รถคันอื่นทราบ

 

โดยทาง Volvo เป็นเจ้าแรกที่พัฒนาระบบนี้ขึ้น และปัจจุบันมีสองเจ้าใหญ่คือ Volvo และ Ford ที่ได้ผลิตและออกจำหน่ายรถยนต์ที่มีระบบความปลอดภัยนี้ออกมาให้ท้องตลาดแล้ว

 

Credits 

สำหรับคนไทย อาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อ อีลอน มัสค์ (Elon Musk)นัก แต่ถ้าจะบอกว่า อีลอน มัสค์ เทียบได้กับ สตีฟ จ็อบส์ หลายๆ คนคงจะพอนึกภาพออก แต่ที่สำคัญคือ ในขณะที่ สตีฟ จ็อบส์ เป็นอัจฉริยะในด้านการนำเทคโนโลยีร่วมสมัยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีตลาดขนาดใหญ่มากคือ Apple แต่ อีลอน มัสก์ เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างคือ ผลิตยานอวกาศ โดยบริษัท Space Exploration Technologies หรือ SpaceX ผลิตรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมันเป็นพลังงานขับเคลื่อนโดยบริษัท Tesla Motorsและผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์โดยบริษัท SolarCity

 

ในการให้สัมภาษณ์ ในวันที่ อีลอน มัสค์ ออกรายการ TED เมือปี 2013 เขาได้แสดงทัศนคติที่ยอดเยี่ยม และวิสัยทัศน์ที่ชาญฉลาด มองเห็นว่าอะไรที่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในโลกอนาคต

 

“ย้อนไปเมื่อผมอยู่ในมหาวิทยาลัยผมคิดถึงว่า อะไรคือปัญหาที่น่าจะ กระทบต่ออนาคตของโลก หรืออนาคตของมนุษยชาติมากที่สุด ผมคิดว่ามันสำคัญอย่างมาก ที่เรามีการคมนาคมที่ยั่งยืน และการผลิตพลังงานที่ยั่งยืน เหล่าบรรดาปัญหาพลังงานที่ยั่งยืนทั้งหมดนั้น เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เราต้องทำการแก้ไขในศตวรรษนี้ อย่างอิสระจากการคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม อันที่จริง สมมุติว่า การผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าเรากำลังจะขาดไฮโดรคาร์บอน พวกเราต้องการหาแนวทางการจัดการที่ยั่งยืน”

 

อีลอน มัสค์ ทำจริงอย่างที่เขาพูด เขาได้ก่อตั้ง Tesla Motor เป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทนี้ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ที่อาจจะเปลี่ยนโฉมหน้าของโลกในอนาคต ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดขององค์กร คือรถยนต์รุ่น Model S รถยนต์ที่ไม่ได้ใช้น้ำมัน เป็ยมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

นวัตกรรมของ Tesla เป็นที่กล่าวขวัญในวงกว้าง เป็นสินค้าขายดี และดีขนาด Toyota ขอมาลงทุนในบริษัทเป็นมูลค่า 50 ล้านเหรียญ รถรุ่น Model S ได้รับรางวัลมากมายจากองค์กรต่างๆ และมีเป้าหมายว่าจะมียอดขาย 40,000 คันทั่วโลกในปี 2014 และ Model S คันหนึ่ง ฉนนราคาเกือบ 3 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ อีลอน มัสค์ ยังยินดีหากบริษัทไหนจะเอาสิทธิบัตรของ Tesla ไปใช้ เพื่อเป็นการพัฒนารถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เติบโตต่อไป

Credits