
จุดแข็งของประเทศไทยในการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนในปี 2558
และแล้วปี 2558 ปีแห่งการเปิดเขตเสรีอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบก็จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ หลายๆ ประเทศกำลังเตรียมพร้อมการแข่งขัน โดยมีสินค้าบางประเภทเริ่มทยอยลดภาษีกัน และจะครบสมบูรณ์เต็มรูปแบบในปลายปี 2558 นี้ และเมื่อนั้นแต่ละประเทศคงงัดกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาเพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางการค้า และสร้างเงื่อนไขบางอย่าง เพื่อปกป้องสินค้าของประเทศตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่สามารถสู้ประเทศอื่นได้ ถ้ามองกันในเรื่องของศักยภาพ ความจริงแล้วประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่โดดเด่นในภูมิประเทศอาเซียนนี้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายประเภท เช่นอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกหลายล้านเหรียญสหรัฐ จุดแข็งของประเทศไทยที่มีมากกว่าประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน คือเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า การส่งออก และประเทศไทยเองได้ประกาศตัวว่าจะเป็น ศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ของกลุ่มอาเซียน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับด้านโลจิสติกส์จากต่างประเทศ เข้ามาตั้งสาขาในประเทศไทยจำนวนมาก รวมถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของระบบขนส่งเอกชน ยิ่งยืนยันได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางของระบบโลจิสติกส์ได้ แต่ขณะเดียวกัน ก็เป็นที่น่ากังวลใจว่า ระบบขนส่งสาธารณะของไทยจะสามารถรองรับได้ทั้งหมดหรือไม่ ถึงแม้ว่าขณะนี้ภาครัฐมีแผนการขยายและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างเร่งด่วนก็ตาม แต่ด้วยความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ความหวังที่แผนการขยายและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะส่งผลให้ไทยมีบทบาทสูงในด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นไปได้สูง โดยเฉพาะกับประเทศที่มีพรมแดนติดกับไทย ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย รวมทั้งสามารถส่งต่อไปยังประเทศข้างเคียง เช่น เวียดนาม และมณฑลตอนใต้ของประเทศจีน ผ่านด่านชายแดนสำคัญที่กระจายตัวอยู่ตามขอบชายแดนในภาคต่างๆของไทย และประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางเพื่อกระจายสินค้าไปยังสองประเทศใหญ่ที่มีจำนวนประชาการเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกคือ จีนและอินเดียอีกด้วย